วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การแต่งกายของวัยรุ่นไทยสมัยนี้เป็นยังไง?



วัยรุ่นไทยกำลังนิยมการแต่งกายแบบแปลก ๆ หลุดโลก มีการโกรกผมด้วยสีเข้มสดแสบตา เจาะจมูก เจาะปาก รวมตัวกันเป็นกลุ่มเดินตามศูนย์การค้าและแหล่งชุมนุมวัยรุ่น ที่ปัจจุบันนี้เราเรียกบริเวณศูนย์การค้าเซ็นเตอร์ พ้อย ภายในสยามสแควร์ ถือว่าเป็นศูนย์รวมแฟชั่นของวัยรุ่นไทย ปรากฏว่า วัยรุ่นหนุ่มสาว อายุตั้งแต่ 12-20 ปี มารวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก และแต่งกายลักษณะคล้าย ๆ กันเดินขวักไขว่เต็มไปหมด โดยแต่ละคนแต่งตัวสีสันสะดุดตา ด้วยเสื้อผ้าแปลกตาผิดไปจากแฟชั่นที่เห็นกันอยู่ทั่วไป โดยแต่ละคนต่างคิดค้นแบบการแต่งกายขึ้นมาเอง วัยรุ่นที่เป็นหญิงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันจัดจ้าน นิยมมากก็คือ สายเดี่ยว กระโปรงแคบกรอมเท้า ใส่รองเท้าส้นหนา แบบอันเดอร์กราวน์ แบบต่าง ๆ กัน นอกจากนี้ยังใส่เครื่องประดับเป็นลูกปัดขนาดใหญ่สีต่าง ๆ ส่วนใหญ่นิยมโกรกสีผมเป็นสีสันต่าง ๆ เช่น เขียว แดง น้ำเงิน ม่วง จากการแต่งตัวที่ต่างสรรหากันมาแต่งกายแล้ว วัยรุ่นเหล่านี้ยังนิยมนำของใช้กระจุกกระจิกอื่น ๆ ติดตัวมาด้วย เช่น หวี กระจก พัดด้ามเล็ก ๆ ถือว่าเป็นเครื่องประดังอีกอย่างหนึ่ง การแต่งกายของวัยรุ่นผู้ชายนั้นพบว่านิยมโกรกผมด้วยสีเจ็บ ๆ ไม่แพ้ผู้หญิง ส่วนเสื้อผ้ามีหลายแนว ทั้งแบบพั้งก์ เป็นกางเกงและเสื้อหนังรัดรูป หรือแร็พ ที่จะแต่งตัวแบบสวมกางเกง และเสื้อตัวใหญ่ แต่นิยมมากเป็นพิเศษก็คือการเจาะตามร่างกายเพื่อใส่เครื่องประดับต่าง ๆ เช่น ดั้งจมูก รูจมูก ปาก ลิ้น คาง และสะดือ แฟชั่นสไตล์นี้ วัยรุ่นไทยเลียนแบบหลาย ๆ แห่ง แต่ที่นิยมและรับเป็นต้นแบบ มักมาจากหนังสือแม็กกาซีนวัยรุ่นจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งบางรายเคยเดินทางไปต่างประเทศมาบ้าง จึงได้นำมาแต่งกาย ถือว่าสนุกดี :)


บางกลุ่มตั้งเป็นแก๊งนัดกันไปอวดโฉมกันตามสถานที่ต่าง ๆ ที่แวะไปโฉบบ่อยที่สุดก็ คือตลาดนัดสวนจตุจักร และสยามสแควร์ เพราะมีแฟชั่นอื่น ๆ ได้ดูด้วย เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากคนอื่น ๆ ที่บางรายจะเข้ามาสอบถามต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม สามารถแต่งกายได้ตามสบาย เพราะไม่ต้องไปโรงเรียน ถ้ามองด้วยความระมัดระวังแล้ว ถือว่าช่วงปิดเทอมหน้าร้อน เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นช่วงปิดเทอมที่ยาวนาน 2-3 เดือน พ่อแม่ผู้ปกครองควรระมัดระวัง บุตรหลานของตนให้ดี เพราะอาจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีได้ บรรยากาศการอวดโฉมหลุดโลกของวัยรุ่นเหล่านี้คึกคักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จุดประสงค์ส่วนใหญ่ของวัยรุ่นเหล่านั้นคือมาโชว์เสื้อผ้าการแต่งกายของตัวเองเท่านั้น โดยจะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ๆ เดินไปเดินมา จับกลุ่มนั่งพูดคุยกันเป็นชั่วโมง บางรายที่แต่งตัวมาเต็มที่ ไม่ได้ตั้งใจจะไปเที่ยวที่ไหน แต่ต้องการจะมานั่งกินไอศกรีมกับเพื่อน ๆ เท่านั้นเอง
การแต่งตัวแบบนี้ จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะโดยพื้นฐานของพวกที่ชอบแต่งกายแปลก ๆ ต้องการจะเรียกร้อง ความสนใจจากคนรอบข้าง เมื่อความรู้สึกเช่นนี้เพิ่มมากขึ้น จะแสดงออกมาด้วยการทำ ให้ตัวเองเจ็บปวด ด้วยวิธีที่พิสดารต่าง ๆ เช่น เอาเข็มมาทิ่มหู เจาะจมูก เจาะลิ้น ทำแล้วจะรู้สึกสะใจ ที่เห็นคนอื่นมองหรือให้ความสนใจ จะเข้าทำนองพวกนิยมความรุนแรง หากปล่อยไว้ เด็กจะไม่เพียงทำร้ายตัวเอง แต่จะเริ่มทำร้ายผู้อื่นมากขึ้นด้วย .

วิธีแก้ไข จะพึ่งพ่อแม่ฝ่ายเดียว คงไม่ได้ เพราะพ่อแม่เอง คงจะตามลูกไม่ทันแล้ว เนื่องจากมีสื่อต่าง ๆ เข้ามามาก ทำให้วัฒนธรรมตะวันตก เข้ามาครอบงำวัยรุ่น เรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่ของรัฐมากกว่า โดยแทนที่จะเน้นเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ ก็หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องวัฒนธรรมด้วย ทางที่ดีควรตั้งเป็นกระทรวงวัฒนธรรม ให้มีนักวิชาการคอยทำหน้าที่ กลั่นกรองสื่อต่าง ๆ ก่อนจะไปถึงประชาชน รวมทั้งชี้แนะว่าสิ่งใดควรรับ สิ่งใดไม่ควรรับ เพราะวัฒนธรรมต่างชาติที่เข้ามา มีทั้งสิ่งดีและไม่ดีปนกัน ดังนั้นในการเลือกรับ เราต้องรู้จักแยกแยะ และใช้วิจารณญาณ จึงจะก่อให้เกิดประโยชน์

ไม่มีความคิดเห็น: